ป้ายกำกับ: ฟุตบอล

ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวน้ำดีของโลก ได้ออกมาเผยแล้วว่า สตาร์ลูกหนังอย่าง คริสเตียอาโน่ โรนัลโด้ ตัดสินใจอยู่กับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีประเด็นย้ายทีม สาเหตุ ต้องการเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และไม่เข้าร่วมปรีซีซั่นกับทีม

โดยล่าสุด อินสตาแกรมของ CR7 ได้มีการเคลื่นไหวจากเขาว่า “Sunday, the king plays” โดยยืนยันว่าจะลงเตะอุ่นเครื่องกับ ราโย่ บาเยกาโน่ ในวันอาทิตย์ ณ โอลแทรฟฟอร์ด

โรนัลโด้ ได้ทำการเข้ารุ่วมฝึกซ้อมกับทีมแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และในอาทิตย์นี้ก็จะเป็นการคุมทีมในรังเหย้าครั้งแรกของ ราล์ฟ รังนิคอีกด้วย

หนึ่งในผู้รักษาประตูของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สโมสร หรือ ทีมชาติ

หากเป็นแฟนบอลผีแดง ตั้งแต่สมัยโน้น จะต้องรู้จักชายที่ชื่อว่า ฟาเบียง บาร์กเตซ

โดย บาร์กเตซ เป็นนายประตูทีมชาติฝรั่งเศษ ชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1998 และแชมป์ยูโร 2000 ในอีก 2 ปีต่อมา

ทำให้ตอนนั้น ฝรั่งเศษ เป็นชาติแรกที่คว้า2แชมป์ติดต่อกัน และนอกจากทีมชาติแล้ว ระดับสโมสร ความสำเร็จเขาก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน

เขามีส่วนสำคัญในการพาทีม มาร์กเซย์ คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก ในปี1993 ได้แชมป์ลีกเอิง 2 สมัย และแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ กับทาง แมนฯ ยูไนเต็ด อีก 2 สมัย

ฟาเบียง บาร์กเตซ เป็นนายทวารที่เหลือเชื่อมากๆ สมัยที่เขาฮ็อตๆ ไม่ว่าจะเป็น ปฏิกิริยาการเซฟที่น่าทึ่ง การออกมาพุ่งตัดบอล การดวลกับกองหน้า 1 ต่อ 1

และภาพสะท้อนความเป็นเขามากที่สุด ก็หน้าจะเป็นตอนที่เล่นให้กับทัพผีแดง หลังจากย้ายมาด้วยค่าตัว 7.8 ล้านปอนด์ ซึ่งมันแพงมากๆสำหรับยุค 2000

และเพียงไม่นาน เขาก็เป็นขวัญใจแฟนบอลทันที ด้วยสไตล์การเซฟของเขา

แต่ทว่า ฤดูกาล 2000/01 ปีที่แมนยูไนเต็ด กำลังจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน ความผิดพลาดของ บาร์กเตซ ก็เริ่มมีออกมาให้เห็นบ้าง

เขามักจะเสียสมาธิ ในบางจังหวะ จึงนำมาสู่การเสียประตูอย่างง่ายดาย

อย่างเช่น ตอนดวลกับ เปาโล ดิ คานิโอ กองหน้าเวสต์แฮม ในจังหวะดวลหนึ่งต่อหนึ่งในเอฟเอ คัพ เดือนมีนาคมปี 2001

บาร์กเตซ ยืนชูมือประท้วงล้ำหน้า แทนที่จะยืนบีบมุมไม่ให้คู่แข่งยิงประตูได้ถนัด สุดท้าย ดิ คานิโอ ไม่ล้ำหน้าและหลุดไปยิงประตูชัยของเกม

ความผิดพลาดมีมาให้เห็นเรื่อยๆ สุดท้าย ฤดูกาล 2003 แมนยู คว้า ทิม ฮาวเวิร์ด มาแทนที่เขา นั่นจึงทำให้ บาร์กเตซ ต้องระเหินกลับไปอยู่กับ มาร์กเซย อีกครั้ง

และก็จบชีวิตค้าแข้ง กับทีมน็องต์ส เมื่อปี 2007

ปัจจุบัน มือกาวมากความสำเร็จรายนี้ ได้ผันตัวเป็นนักแข่ง มอเตอร์สปอร์ต และประสบความสำเร็จได้อีกระดับ ด้วยการเป็นแชมป์ระดับภูมิภาคในฝรั่งเศษ

ซึ่งเขาได้ออกมาเผยว่า เหมือนที่มีคนบอกไว้ มันไม่เหมือนฟุตบอล คุณยังเก่งได้แม้จะอายุ 35 ปีไปแล้ว ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ผมเลิกเล่นฟุตบอลพอดี

“ผมรู้เส้นทางเป็นอย่างดี บรรยากาศ, จิตวิญญาณ

ผมใช้เวลาสามเดือน เพื่อศึกษาทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ มันเป็นแพสชั่นที่กลายเป็นความหมกมุ่นเลยล่ะ บาร์กเตซ กล่าว

เอาละครับนี่ก็แสดงให้เห็นถึง แพสชั่นใหม่ ที่เขากำลังหลงไหล และทุ่มกับมันเต็มที่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะนักฟุตบอลหลายคนที่เลิกไป

ยังค้นหาสิ่งที่อยากทำอีกไม่ได้ หากใครค้นพบ ก็เหมือนได้เริ่มต้นชีวิต ความท้าทายใหม่ๆ นี่แหละครับ เรื่องราวของสุดยอดมือกาว ของทัพผีแดง ฟาเบียง บาร์กเตซ

ฟาบริซิโอ้ โรมาโน่ นักข่าวด้านการซื้อข่าวจอมแม่นปืน เผยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทำการติดต่อไปทางบาร์เซโลน่าอีกรอบ เพื่อคว้าตัว แฟร้งกี เดอ ยอง มิดฟิลด์มากความสามารถ ของทัพต่างดาว บาร์เซโลน่า

ซึ่งโดยก่อนหน้า ผีแดงพยายามยื่นไปก่อนแล้วที่ราคา 60 ล้านปอนด์ แต่ว่าทางบาร์เซโลน่า ไม่ต้องการขาดทุน เพราะพวกเขาซื้อ แฟร้งกี มาในราคา 65 ล้านปอนด์ และตอนแรกผีแดงทำท่าจะไม่สนใจก็ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาเจรจาอีกครั้ง เพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา

ทางด้าน แฟร้งกี เดอ ยอง จริงๆแล้วเขาไม่ต้องการย้ายออกจากรังแคมป์นู แต่ว่าโดนสองผู้จัดการทีมเกลี้ยกล่อม ว่าเพื่ออนาคตของตัวเขา อาจจะสร้างชื่อขึ้นมาได้

โดย โรมาโน่ เผยว่า พวกเขาได้ทำการเจรจาตกลงกันไปได้ด้วยดี โดยจะมีราคาตามที่พวกเขาบาร์เซโลน่าอยากได้ แต่ว่ารวมแอดออน ในราคา 80 ล้านปอนด์

มีรายงานจาก แมนเชสเตอร์ อิฟนิ่ง นิวส์ เปิดเผยวันนี้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมที่จะเมิน แฟร้งกี้ เดอ ยอง เนื่องจาก ต่างดาว บาร์เซโลน่า ตอบปฏิเสธค่าตัว 60 ล้านปอนด์ เพราะพวกเขา บาซ่า ต้องการจำนวนเงินที่ 85 ล้านปอนด์

โดยผีแดง ออกมาใช้จิตวิทยา เหมือนไม่ง้อ และเผยว่า พวกเขากำลังเล็งไปที่ แคลวิน ฟิลลิปส์ ของลีดส์ ยูไนเต็ด และ เดแคลน ไรซ์ คนดังของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด หากบาซ่า ไม่โอเค และยังยืนกรานที่ในราคา 85 ล้านปอนด์

และตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่า เจ้าตัวนักเตะเต็มใจที่จะย้ายมาเข้ารังโอลด์ แทรฟฟอร์ด หรือไม่ เนื่องจากฤดูกาลหน้าพวกเขาไม่ได้ไปเล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อคืนที่ผ่านมาเปิดบ้านเจอกับ เมตซ์ และสามารถเอาชนะ 5-0 มีการเปิดตัวสัญญาใหม่ของ คิริยัน เอ็มบับเป้ ต่อยาวไปถึงปี 2025 โดยจะได้รับค่าเหนื่อย 1 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ ค่าเซ็นสัญญา 100 ล้านปอนด์ กลายเป็นนักเตะที่ค่าตัวสูงที่สุดในโลก และนอกจากเรื่องค่าตัวแล้ว ยังได้ค่าส่วนแบ่งต่างๆของสโมสรอีกด้วย

ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นอย่างที่พวกเราทราบอยู่แล้วว่า เรอัล มาดริด คือความฝันของเขา และเหมือนจะมีการตกลงส่วนตัวกันล่วงหน้าแล้วด้วย แต่สุดท้าย คิริยัน เอ็มบับเป้ เลือกที่จะอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต่อไป

“ผมเคยบอกเสมอว่า ที่นี่คือบ้านของผม ผมมีความสุขที่ตัดสินใจอยู่ต่อ ผมเชื่อว่าผมจะไปได้อีกในสโมสรแห่งนี้ และดีใจที่ได้เล่นในบ้านเกิดของผมเอง” เอ็มบับเป้ กล่าว

ชาบี เอร์นันเดซ ได้ตอบนักข่าว ที่ถามถึง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ว่ามีโอกาสที่กองหน้าเลือดโปแลนด์ จะมีโอกาสย้ายมาร่วมทัพหรือไม่ โดย เลวานดอฟสกี้ เหลือสัญญากับทาง เสือใต้ปีนิสๆ และมั่นใจแล้วว่าเจ้าตัว จะไม่ต่อสัญญา พร้อมจะย้ายออกเพื่อไปหาความท้าทายใหม่

ซึ่งประเด็นนี้ ชาบี ได้เผยว่า “อายุไม่ใช่อุปสรรค คุณอย่าลืมสิว่าผมเคยเซ็นแดเนียล อัลเวส นักเตะเหล่านี้ มีความเป็นมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น สลาตัน , ลูก้า โมดริช , โรนัลโด้ , ลิโอเนล เมสซี่ พวกเขาเหล่านี้ สามารถเล่นในระดับสูงได้” ชาบีตอบกลับนักข่าว

สุดท้าย ผมยังจะไม่พูดถึงเขาตอนนี้

บาร์รันกีล่า เอฟซี บ้านเก่าของ หลุยส์ ดิอาซ ได้ทำการแจ้งไปที่ ฟีฟ่า เรื่องค่าแบ่งส่วนต่าง ที่ได้ตกลงกันไว้กับทาง เอฟซี ปอร์โต้ ว่าจะได้ 20 เปอร์เซ็น เมื่อปี 2019 หลังจากที่ หลุยส์ ดิอาซ ย้ายมาซบ หงส์แดง ลิเวอร์พูล และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

ซึ่ง หลุยส์ ดิอาซ ย้ายมาทัพ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ แต่ว่า เรื่องการแบ่งส่วนต่าง ยังไม่เกิดขึ้นจึงทำให้ บาร์รันกีล่า เอฟซี ไม่พอใจ และต้องการให้ปอร์โต้ เข้ามาเจรจาในจำนวนเงิน 7.7 ล้านปอนด์

ซึ่งข่าวนี้เป็นการรายงานมาจากสำนักสื่อจาก ประเทศ โคลอมเบีย

แอนโธนี่ เอลังก้า นักเตะดาววรุ่งของทัพผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในช่วงจี๊ดขึ้นมาเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าบางครั้งบางจังหวะ

ดูยังขาดประสบบการณ์อยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ว ก็ถือว่าดีใช้ได้ น่าจับตามอง ถึงขนาด ราล์ฟ รังนิค กุนซือเฉพาะกาล

เลือก เอลังก้า ก่อนแรชฟอร์ด เสียอีก นั่นเป็นเหตุผลที่เขา มีความมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ

แอนโธนี่ เอลังก้า เกิดเมื่อปี 2002 ที่ประเทศสวีเดน ซึ่งในขณะนั้น คุณพ่อของเขา เป็นนักฟุตบอลอาชีพอยู่ในทีม มัลโม่ ทีมดังจากลีกสวีเดน

เล่นเป็นตำแหน่งกองหลัง และเป็นตัวหลักให้กับทีมชาติ แคมเมอรูน ในชุดฟุตบอลโลก ปี 1998 อีกด้วย

โดย อีลังก้า ไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆจาก อคาเดมี่ ของทัพผีแดง มาตั้งแต่เด็ก และเคยได้รางวัล จิมมี่ เมอร์ฟี่ อวอร์ด รางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี ในรุ่นอายุไม่เกิน 18

โดยตอนที่เขาได้รางวัลนั้น เขาอายุแค่ 16 ปี กับอีก 9 เดือน กลายเป็นแข้งดาวรุ่งที่อายุน้อยสุด

นักเตะโคตรเก๋า อย่าง สลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่เป็นรุ่นพี่ในทีมชาติสวีเดน ยังออกปากชื่นชมรุ่นน้องว่า เขาจะเป็นกำลังหลักให้กับสวีเดน ในอนาคต

“ครั้งแรกที่ผมเจอเขาในสนามซ้อม ผมดีใจมากครับ ไม่ใช่เพราะเขาทำผลงานเข้าตาผมตั้งแต่แรกนะ

แต่เป็นเพราะผมรู้สึกดี ที่มีคนสวีดิชอยู่ด้วยอีกคนในทีมนี้ และเมื่อเขาได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับแมนฯยู

มันทำให้ผมรู้เลยว่า เด็กคนนี้มีของ เอลังก้า คนนี้ อาจจะเป็นกำลังหลักให้กับสวีเดนเลยก็ได้ จับตาดูเขาให้ดี อีก 20 ปี ต่อจากนี้

เขาจะเป็นยอดนักฟุตบอล ” สลาตัน อิบราฮิโมวิช กล่าว

ก็ต้องมาลุ้นกันอีกที ในยุคของ เอริก เทน ฮาก ว่า ยอดโค้ชคนนี้ จะเลือกใช้ แอนโธนี่ เอลังก้า หรือไม่

ส่วนตัวเขาเอง ก็ต้องหมั่นพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เพื่อรอโอกาสนั้นจะมาถึง

เพื่อนๆ คิดว่า ดาวรุ่งคนนี้ จะไปได้ไกลแค่ไหน ก็คอมเม้นพูดคุยกันได้นะครับ

อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจ ให้พวกเราสิงห์สนามด้วยนะคราบ